ผลศึกษาผู้ดีชี้โลกจะร้อนยิ่งขึ้นหลังปี 52 จี้อาเซียนเร่งรับมือภววะอากาศเปลี่ยนแปลง



 

ผลศึกษาผู้ดีชี้โลกจะร้อนยิ่งขึ้นหลังปี 52 จี้อาเซียนเร่งรับมือภววะอากาศเปลี่ยนแปลงผล การศึกษาใหม่พยากรณ์ว่า ภาวะโลกร้อนจะรุนแรงยิ่งขึ้นหลังปี 2552 ยิ่งในช่วง 2 ปีครึ่ง หลังจากปี 2552 อากาศจะร้อนยิ่งกว่าปี 2541 ซึ่งเป็นปีที่โลกร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์

ผู้เชี่ยวชาญสภาพอากาศ พยากรณ์มานานแล้วว่า ช่วงศตวรรษที่ 21 จะเกิดภาวะโลกร้อนเพราะปรากฏการณ์เรือนกระจก แต่ผลการศึกษาใหม่ของสำนักอุตุนิยมวิทยาอังกฤษระบุว่า สภาพอากาศจะเป็นอย่างไรบ้างในช่วง 10 ปีหลังปี 2548 โดยใช้คอมพิวเตอร์คำนวณรูปแบบการเกิดปรากฏการณ์เอลนิโญในมหาสมุทรแปซิฟิก ความผันผวนของลักษณะการหมุนเวียนและอุณหภูมิของกระแสน้ำในมหาสมุทรพบว่า โลกจะร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นไป

ด้าน นายไซเอ็ด ฮามิด อัลบาร์ รมว.ต่างประเทศมาเลเซียเรียกร้องต่อชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน หากเราไม่รีบดำเนินการในตอนนี้ ผลกระทบของภาวะโลกร้อนก็จะมาสู่เศรษฐกิจและภูมิศาสตร์ของเอเชียตะวันออก เฉียงใต้อย่างไม่ต้องสงสัย

ขณะที่ นายยาซูฮิสะ ชิโอซากิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของญี่ปุ่น ยังคงอยู่เหนือระดับที่กำหนดไว้ในปี 2533 ซึ่งมากถึงร้อยละ 2.1 ภายในปี 2553 แม้ทางการโตเกียวมีความพยายามลดการปล่อยก๊าซก็ตาม ทั้งนี้ ภายใต้พิธีสารเกียวโต ญี่ปุ่นให้คำมั่นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือร้อยละ 6 ภายในปี 2555 แต่เมื่อปี 2548 การปล่อยก๊าซยังอยู่ที่ร้อยละ 8.1

เช่นเดียวกับ นายกรัฐมนตรีแองเจลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ให้คำมั่นกดดันนานาชาติ เพื่อให้มีการทำข้อตกลงฉบับใหม่ทั่วโลกว่าด้วยการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลง ของภูมิอากาศ.

0 ความคิดเห็น: